เลือกให้ถูก ! กระบอกน้ำสแตนเลสมีเกรดอะไรบ้างที่น่าใช้งาน

การตลาดยุคใหม่ ที่แบรนด์ต้องแข่งขันกันทั้งในเรื่องคุณภาพและภาพลักษณ์ การเลือกของพรีเมียมที่ดูดีและใช้งานได้จริงเพื่อช่วยส่งเสริมการขาย จำเป็นจะต้องเน้นถึงคุณภาพ ยิ่งในปัจจุบัน หากพูดถึง “กระบอกน้ำสแตนเลส” ซึ่งกลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถมอบเป็นของขวัญให้แก่ลูกค้า หรือคู่ค้าเพื่อสร้างความประทับใจ ยังจะต้องคัดสรรสแตนเลสเกรดคุณภาพเพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งานอย่างแท้จริงด้วย 

ถ้าคุณคือผู้ประกอบการที่กำลังมองหากระบอกน้ำที่มีความทนทาน ปลอดภัย และสามารถเก็บอุณหภูมิของเครื่องดื่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งคำถามสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ สแตนเลสเกรดไหนดีสุดและเหมาะสมกับการนำมาผลิตเป็นกระบอกน้ำ เนื่องจากในท้องตลาดมีสแตนเลสอยู่หลายประเภท เช่น สแตนเลส 201, 304, 316 แล้วแต่ละเครดคืออะไร รวมถึงต่างกันอย่างไร ? บทความนี้จะพาไปรู้จักกับคุณสมบัติของสแตนเลสในแต่ละเกรดที่เหมาะกับการนำมาผลิตเป็นสินค้าพรีเมียมให้มากยิ่งขึ้น   

สแตนเลสคืออะไร และทำไมถึงนิยมใช้ผลิตกระบอกน้ำ ?

สแตนเลส (Stainless Steel) เป็นโลหะผสมที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องความทนทานต่อการกัดกร่อน แข็งแรง และไม่เป็นสนิมง่าย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการนำมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะกระบอกน้ำที่ต้องสัมผัสกับของเหลวเป็นเวลานาน อีกทั้งสแตนเลสยังมีความสามารถในการรักษาอุณหภูมิได้ดี จึงเป็นวัสดุที่นิยมใช้ในการผลิตกระบอกน้ำสุญญากาศ

เปรียบเทียบ ! กระบอกน้ำสแตนเลส มีเกรดอะไรบ้าง ?

การเข้าใจความแตกต่างระหว่างเกรดของสแตนเลสเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากแต่ละเกรดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านความแข็งแรง ความทนทานต่อการกัดกร่อน และความปลอดภัยในการใช้งาน โดยทั่วไปแล้ว สแตนเลสที่นิยมใช้ในการผลิตกระบอกน้ำจะมี 3 เกรดหลัก ได้แก่

1. สแตนเลสเกรด 201

สแตนเลสเกรด 201 คือเกรดที่มีต้นทุนต่ำที่สุดในกลุ่มที่ใช้ผลิตกระบอกน้ำ จุดเด่นคือมีแมงกานีสมากกว่านิกเกิล ทำให้ต้นทุนการผลิตถูกกว่า แต่ก็มีสิ่งที่ควรพิจารณา เช่น ทนการกัดกร่อนได้ไม่ดีเท่าเกรดที่สูงกว่า รวมถึงอาจเกิดสนิมหากใช้งานกับของเหลวเป็นเวลานาน หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมชื้น

2. สแตนเลสเกรด 304 (Food Grade Stainless Steel)

สแตนเลส 304 คือสแตนเลสเกรดมาตรฐานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนำไปผลิตเป็นกระบอกน้ำ เนื่องจากสาามรถทนต่อการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม ไม่เป็นสนิมง่าย ไม่มีสารตกค้าง ไม่ปนเปื้อนสารโลหะหนัก จึงปลอดภัยต่ออาหารและเครื่องดื่ม ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มทั่วไป

3. สแตนเลสเกรด 316 (Marine Grade Stainless Steel)

สแตนเลสเกรด 316 คือสแตนเลสเกรดสูงสุดที่ใช้ในภาชนะบรรจุของเหลว เนื่องจากมีส่วนผสมของโมลิบดีนัม ช่วยเพิ่มความทนทานต่อความเป็นกรด ด่าง และสารเคมี ทำให้มีคุณสมบัติเด่นคือ ไม่เป็นสนิมแม้ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความเค็มหรือกรดสูง เช่น ริมทะเล แต่มีราคาสูง จึงมักถูกนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ หรืออุตสาหกรรมเฉพาะทาง

สแตนเลสเกรดไหนเหมาะที่สุดสำหรับนำไปทำกระบอกน้ำ ?

หากกำลังมองหาวัสดุที่เหมาะกับการผลิตกระบอกน้ำสแตนเลสพรีเมียมที่เน้นคุณภาพและความปลอดภัย สแตนเลสเกรด 304 คือคำตอบที่ดีที่สุด ด้วยคุณสมบัติที่ทนทาน ไม่เป็นสนิมง่าย และได้รับการรับรองให้ใช้กับอาหารและเครื่องดื่ม จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการมอบกระบอกน้ำเป็นของพรีเมียมให้แก่ลูกค้า แต่ถึงแม้ว่า สแตนเลสเกรด 316 จะดีกว่าในแง่ของความทนทาน แต่ราคาค่อนข้างสูงและอาจไม่จำเป็นสำหรับการใช้งานทั่วไป เว้นแต่ต้องการใช้งานหนัก หรือใช้ในสภาพแวดล้อมเฉพาะทาง

ข้อควรรู้ก่อนสั่งทำกระบอกน้ำสแตนเลส

ในการเลือกเกรดสแตนเลสสำหรับนำไปผลิตเป็นกระบอกน้ำ ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย เพื่อให้กระบอกน้ำสแตนเลสสามารถใช้งานได้ดี ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้และสะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์ได้อย่างมืออาชีพ ดังนี้

เทคโนโลยีสุญญากาศ (Vacuum Insulation)

ควรเลือกกระบอกน้ำที่มีฉนวนสุญญากาศสองชั้น เพื่อช่วยเก็บอุณหภูมิได้ทั้งร้อนและเย็นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกระบอกน้ำที่ใช้เทคโนโลยีนี้จะสามารถรักษาอุณหภูมิร้อนได้นาน 6-12 ชั่วโมง และความเย็นได้นานถึง 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในชีวิตประจำวัน หรือกิจกรรมกลางแจ้ง

คุณภาพของฝาปิด

ฝาที่ดีควรปิดได้สนิท ไม่รั่วซึม และมีระบบล็อกที่แน่นหนา วัสดุที่ใช้ควรเป็น Food Grade เช่น ซิลิโคนปลอดสาร BPA เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ควรมีระบบกันลื่น หรือซีลกันกระแทก เพื่อเพิ่มความทนทานในการใช้งาน

ดีไซน์และความสะดวกในการใช้งาน

รูปทรงของกระบอกน้ำควรจับได้ถนัดมือ น้ำหนักพอดี พกพาง่าย มีฟีเจอร์เสริม เช่น ฝาเปิดปิดด้วยมือเดียว หูหิ้ว หรือหลอดดูดในตัว คุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน และทำให้กลายเป็นของพรีเมียมที่ลูกค้าสามารถหยิบมาใช้ได้บ่อย

มาตรฐานการผลิต

ควรเลือกผู้ผลิต หรือโรงงานที่มีมาตรฐาน เช่น ISO, FDA, SGS หรือผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากองค์กรที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจว่ากระบอกน้ำสแตนเลสพรีเมียมที่ผลิตมีความปลอดภัย ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและมีคุณภาพ

เรื่องของคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ หากผู้ประกอบการท่านใดต้องการกระบอกน้ำสแตนเลสคุณภาพดี ที่ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ Royal Promo พร้อมให้บริการรับผลิตกระบอกน้ำสแตนเลสพรีเมียม รวมถึงของพรีเมียมอื่น ๆ เช่น กระเป๋า ขวดน้ำ ผ้าขนหนู พัดลม สายชาร์จ และอีกมากมายคุณภาพสูง โดยสามารถออกแบบได้ตามต้องการ เพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้เป็นที่จดจำ สนใจสั่งผลิตของพรีเมียมราคาส่ง สามารถเลือกชมสินค้าตัวอย่างได้บนเว็บไซต์ หรือติดต่อขอคำปรึกษาและใบเสนอราคาฟรีได้ที่ Email: amornthep.g@royal-promo.com หรือ Line: @royalpromo

ข้อมูลอ้างอิง

1. สแตนเลส เกรด 201 คืออะไร?. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 จาก https://www.thehomest-th.com/the-homest-stainless-steel-grade-201-th-2/ 

2. สแตนเลส 304 VS สแตนเลส 316 คืออะไร? ต่างกันอย่างไร? ทำไมต้องรู้?. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 จาก https://rabbitcare.com/blog/lifestyle/different-type-of-stainless-steel-types